“พระนางเรือล่ม” คือพระนามที่ประชาชนเรียกขาน สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี อัครมเหสีในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 พระองค์สิ้นพระชนม์พร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้ากรรณาภรณ์เพชรรัตน์ พระราชธิดา จากเหตุการณ์เรือพระประเทียบล่มกลางแม่น้ำเจ้าพระยา เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2423 ขณะเสด็จพระราชดำเนินไปยังพระราชวังบางปะอิน โศกนาฏกรรมครั้งนั้นจึงกลายเป็นที่มาของชื่อเรียก “พระนางเรือล่ม”
ตำนานและประวัติ
สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ ทรงพระราชสมภพเมื่อ พ.ศ. 2403 เป็นพระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 และเจ้าจอมมารดาเปี่ยม ภายหลังได้เป็นอัครมเหสีในรัชกาลที่ 5 และมีพระราชธิดาคือ สมเด็จเจ้าฟ้าหญิงกรรณาภรณ์เพชรรัตน์
เหตุการณ์เรือล่มครั้งประวัติศาสตร์ทำให้ทั้งสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระราชธิดา และพระพี่เลี้ยง รวม 4 ชีวิต ต้องสิ้นพระชนม์พร้อมกัน เหตุการณ์นี้ถูกจารึกไว้ว่าเป็นอุบัติเหตุจากความประมาทในการเดินเรือ แต่ในหมู่ราษฎรกลับมีการเล่าลือต่าง ๆ ถึงเบื้องหลังในวังและลางบอกเหตุที่ชวนให้ขนลุก เรื่องราวเหล่านี้จึงถูกขยายกลายเป็น “ตำนานพระนางเรือล่ม” ที่ยังคงถูกเล่าต่อมาอย่างยาวนาน
ความเชื่อและสิ่งศักดิ์สิทธิ์
หลังเหตุการณ์อันเศร้าสลด สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ได้รับการยกย่องจากประชาชนให้เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ เชื่อกันว่าทรงมีอภินิหารและพลังเหนือธรรมชาติ ผู้คนจำนวนมากเดินทางไปสักการะ ขอพร และถวายสิ่งของบูชา โดยเชื่อว่าพระนางจะประทานความรัก โชคลาภ และความสำเร็จ
สถานที่สำคัญที่ใช้สักการะ ได้แก่
- ศาลพระนางเรือล่ม วัดกู้ จังหวัดนนทบุรี – จุดสักการะยอดนิยมที่ผู้คนมักนำดอกกุหลาบสีชมพูและของเล่นเด็กไปถวาย
- เจดีย์พระนางเรือล่ม วัดเกาะพญาเจ่ง จังหวัดนนทบุรี – อนุสรณ์สถานใกล้จุดเกิดเหตุเรือล่ม
- อนุสาวรีย์ที่พระราชวังบางปะอิน – พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติและรำลึกถึงพระนาง
เรื่องเล่าเหนือธรรมชาติ
ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา มีคำบอกเล่าเกี่ยวกับความศักดิ์สิทธิ์ของพระนางเรือล่มมากมาย ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ไปกราบไหว้แล้วฝันเห็นสตรีสูงศักดิ์ หรือภาพเด็กเล็กที่ปรากฏในความฝัน อีกทั้งยังเชื่อกันว่า หากถวายดอกกุหลาบสีชมพู จะสมหวังในความรักและความปรารถนา ความศรัทธานี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในไทย แต่ยังขยายไปถึงผู้คนต่างชาติที่เคารพนับถือ
นอกจากนี้ยังมีการเล่าขานถึง “พระสุบินลางร้าย” ของสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ ที่ทรงฝันก่อนสิ้นพระชนม์ ซึ่งถูกมองว่าเป็นลางบอกเหตุแห่งชะตากรรม ทำให้ตำนานนี้ยิ่งมีมิติของความลี้ลับและความศรัทธาที่ไม่เสื่อมคลาย
สรุป
โศกนาฏกรรมของ สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ หรือ “พระนางเรือล่ม” ไม่เพียงเป็นบันทึกประวัติศาสตร์ในราชสำนัก แต่ยังกลายเป็นตำนานและความเชื่อที่หยั่งรากลึกในสังคมไทย แม้เวลาจะผ่านมากว่าร้อยปี เรื่องราวของพระองค์ยังคงถูกเล่าขานและได้รับการสักการะในฐานะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ปกป้องและคุ้มครองผู้ศรัทธาจนถึงปัจจุบัน