วงการมวยญี่ปุ่นเผชิญความสูญเสียครั้งใหญ่ หลังจากที่ ชิเกโตชิ โคทาริ และ ฮิโรมาสะ อุราคาว่า สองนักชกชาวญี่ปุ่นเสียชีวิตจากภาวะเลือดออกในสมองระหว่างขึ้นสังเวียน สร้างความสะเทือนใจและกลายเป็นแรงกระตุ้นให้ คณะกรรมการมวยสากลแห่งประเทศญี่ปุ่น (JBC) ต้องออกมาตรการเร่งด่วนเพื่อยกระดับความปลอดภัยของนักกีฬา
สึโยชิ ยาสุโคชิ เลขาธิการ JBC ออกมาเปิดเผยต่อสื่อในญี่ปุ่นว่า หากกีฬามวยไม่สามารถปรับกฎระเบียบและยกระดับมาตรการความปลอดภัยได้เพียงพอ อนาคตอาจไม่มีการจัดการแข่งขันมวยในประเทศญี่ปุ่นอีกต่อไป
“หากเราไม่ปรับปรุง กีฬามวยก็จะเดินหน้าต่อไม่ได้ ถ้าผู้ที่เกี่ยวข้องไม่พร้อมจะเปลี่ยนแปลง เราจำเป็นต้องหยุดกิจกรรมมวยในประเทศ” ยาสุโคชิกล่าวอย่างตรงไปตรงมา
เขายังย้ำเพิ่มเติมว่า กีฬามวยที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 100 ปี กำลังเผชิญจุดเปลี่ยนสำคัญ “บางคนอาจบอกว่านี่คือกีฬาที่มีโอกาสเกิดอุบัติเหตุ แต่เราไม่สามารถคิดเช่นนั้นได้ เพราะเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า เราไม่ควรปล่อยผ่านไปว่าเป็นเพียงเรื่องบังเอิญ จำเป็นต้องหาสาเหตุและแก้ไขอย่างจริงจัง”
เพื่อเป็นการรับมือเบื้องต้น JBC ได้ประกาศลดจำนวนยกการแข่งขันชิงแชมป์ในประเทศ จากเดิม 12 ยก เหลือเพียง 10 ยก สำหรับศึก OPBF และ WBO ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่จัดขึ้นในญี่ปุ่น โดยถือเป็นมาตรการแรกที่ออกมาอย่างเป็นรูปธรรม
นอกจากนี้ ยังมีการกำหนดมาตรการเสริมเพื่อเพิ่มความปลอดภัย เช่น การควบคุมระดับน้ำในร่างกายของนักมวย, การจัดให้มีทีมแพทย์และโรงพยาบาลเข้าดูแลทุกเวทีแข่งขัน, รวมถึงการปรับใช้เทคโนโลยีใหม่ด้วยการใช้ MRI แทน CT Scan เพื่อตรวจสอบสมองอย่างละเอียดมากขึ้น มาตรการทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจของ JBC ที่ต้องการรักษากีฬามวยไว้ แต่ก็ไม่ปฏิเสธว่า หากไม่สามารถสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยได้ กีฬามวยอาจหายไปจากประเทศญี่ปุ่นจริงๆ