อ.เชียง ปัณณวิชญ์ พิบูลธนาภิรมย์ หรือที่ผู้คนรู้จักกันในชื่อสั้น ๆ ว่า “อ.เชียง” คือหนึ่งในบุคคลที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางในแวดวงผู้แก้ดวงและผู้มีวิชาพิเศษของไทย ด้วยความสามารถอันโดดเด่นในการมองเห็น “ภาพนิมิตสามมิติ” ที่เขาอ้างว่าสามารถชี้แนะแนวทางชีวิตได้อย่างแม่นยำ ทำให้ได้รับความเชื่อถือจากทั้งบุคคลทั่วไป คนดัง รวมไปถึงนักธุรกิจชั้นนำจำนวนมาก จนถูกยกย่องว่าเป็น “ผู้วิเศษสายขาว”
จุดเริ่มต้นและความสามารถพิเศษ
อ.เชียงมีชื่อจริงว่า ปัณณวิชญ์ พิบูลธนาภิรมย์ ความสามารถพิเศษของเขาอยู่ที่การเห็น “ภาพนิมิต” ที่ปรากฏในจิตใจอย่างคมชัด รายละเอียดเสมือนจริงในลักษณะสามมิติ ซึ่งแตกต่างจากความฝันทั่วไปอย่างสิ้นเชิง เขาเน้นเสมอว่าไม่ใช่หมอดูตามตำราโหราศาสตร์ ไม่ได้ศึกษาด้านนี้อย่างเป็นทางการ แต่เลือกใช้พลังจากภาพนิมิตและสมาธิเป็นเครื่องมือในการให้คำแนะนำ เพื่อชี้ทางออกแก่ผู้ที่ต้องการคำปรึกษาในเรื่องต่าง ๆ ของชีวิต
เส้นทางชีวิตและจุดเปลี่ยนสำคัญ
อ.เชียงเล่าว่าตนเริ่มเห็นภาพนิมิตตั้งแต่เด็ก อายุเพียง 7–8 ขวบ ภาพเหล่านี้มักสอดคล้องกับเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นภายหลัง จึงทำให้เขาเชื่อว่าความสามารถนี้เป็นพลังที่ติดตัวมาตั้งแต่ “สัญญาเก่า” หรือจากอดีตชาติ ในช่วงวัยเรียนมหาวิทยาลัย เขาเลือกศึกษาด้านนิติศาสตร์ แต่กลับพบประสบการณ์เชิงสัญลักษณ์และการเห็นภาพที่บอกทิศทางชีวิต จนตัดสินใจเบนเส้นทางจากสายกฎหมาย มุ่งหน้าสู่การใช้พลังพิเศษเพื่อช่วยเหลือผู้อื่นแทน
หลักการทำงานและแนวทางให้คำปรึกษา
หัวใจสำคัญของการทำงานคือ สมาธิและการปฏิบัติธรรม เมื่อมีสมาธิสูง เขาจะได้รับการ “เปิดภาพ” จากสิ่งที่เรียกว่าผู้คุ้มครองทางจิตวิญญาณ ภาพเหล่านี้จะบอกถึงเหตุการณ์ สถานการณ์ หรือชะตาชีวิตในลักษณะสามมิติ จากนั้นอ.เชียงจะตีความและแนะนำเชิงปฏิบัติ ไม่ว่าจะเป็นการแก้ปัญหาด้านจิตใจ แนวทางการทำบุญ หรือวิถีชีวิตที่เหมาะสม เขายืนยันว่าตนไม่เคยคิดค่าครูแบบหมอดู แต่เปิดโอกาสให้ผู้ที่ได้รับคำแนะนำร่วมทำบุญตามกำลังศรัทธา
ผลงาน ความน่าเชื่อถือ และบทบาทต่อสังคม
ด้วยความสามารถที่แตกต่าง อ.เชียงจึงได้รับความไว้วางใจจากหลากหลายวงการ ทั้งคนธรรมดา คนดัง และนักธุรกิจ โดยมักเข้ามาขอคำแนะนำในเรื่องการงาน การเงิน ความสัมพันธ์ หรือแม้แต่การใช้ชีวิต หลายกรณีที่เล่าต่อกันในสังคมบันเทิงได้ช่วยเผยแพร่ชื่อเสียงของเขาให้กว้างขวางมากขึ้น นอกจากการให้คำปรึกษาแล้ว เขายังมีบทบาทในด้านการทำบุญ สนับสนุนวัดและมูลนิธิต่าง ๆ โดยระบุชัดว่าทุกบาทที่ได้รับจากผู้ศรัทธาจะถูกนำไปใช้กับกิจกรรมทางศาสนาและสาธารณประโยชน์
ภาพลักษณ์และข้อควรระมัดระวัง
อ.เชียงถูกมองว่าเป็นบุคคลที่มีความตั้งใจจริงในการเผยแผ่แนวทางสายขาว เน้นช่วยเหลือผู้คนโดยไม่หวังผลตอบแทนส่วนตัว ทำให้มีผู้เคารพศรัทธาจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม เขายังเน้นย้ำกับผู้ที่เข้ามาปรึกษาเสมอว่า คำแนะนำทางจิตวิญญาณควรถูกใช้ควบคู่กับเหตุผล และหากมีปัญหาที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพกาย สุขภาพจิต หรือเรื่องกฎหมาย ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญในสายงานนั้นควบคู่กัน
สรุป
อ.เชียง ปัณณวิชญ์ พิบูลธนาภิรมย์ คือนักแก้ดวงที่ยืนอยู่ในจุดกึ่งกลางระหว่างความเชื่อ ประสบการณ์ชีวิต และการปฏิบัติธรรม เขาเลือกใช้ภาพนิมิตเป็นเครื่องมือในการช่วยเหลือผู้คน แม้ไม่ขอถูกเรียกว่า “หมอดู” แต่ด้วยความศรัทธาและผลลัพธ์จากผู้ที่ได้รับคำชี้แนะ ทำให้ชื่อของเขากลายเป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญที่ถูกกล่าวถึงอย่างมากในแวดวง “ผู้วิเศษสายขาว” ของเมืองไทย
